ปัจจุบันนี้การรับส่งข้อมูลระหว่างเว็บแอปพลิเคชันกับโปรแกรมต่าง ๆ นั้น จะต้องใช้ API หรือ Application Programming Interface เป็นตัวกลางเพื่อให้รับส่งหรือเชื่อมต่อถึงกัน ซึ่ง API ดังกล่าวนั้นมีหลายหลายเครื่องมือ แต่เครื่องมือที่นิยมใช้กันมากในตอนนี้คือ Node JS นั่นเอง
Node JS คือการเขียนโปรแกรมฝั่งเซิร์ฟเวอร์ด้วยภาษา JavaScript เป็นเสมือน Platform ซึ่ง Nodde JS นั้นขึ้นชื่อในเรื่องการประมวลผลเร็ว ทำให้แอปพลิเคชันที่ใช้ Node JS นั้นสะดวกและรวดเร็ว ที่สำคัญคือสามารถติดตั้งได้ง่ายพร้อมมีโมดูลต่าง ๆ ให้ใช้งานได้มากมายอีกด้วย
วิธีติดตั้ง Node JS
- เข้าเว็บไซต์ : “https://nodejs.org/en/” > เลือก “Recommended For Most Users”
2. ทำการเปิดไฟล์ดาวน์โหลด จะขึ้นหน้าต่างการติดตั้งให้เลือก “ดำเนินการต่อ”
3. ให้เลือก “ดำเนินการต่อ” อีกครั้ง
4. เมื่อกดดำเนินการต่อจะขึ้นแจ้งเตือน ให้เลือก “ยอมรับ”
5. จากนั้นเลือก “ติดตั้ง”
6. เมื่อเลือกติดตั้ง จะแสดงหน้าต่างเตือนให้ใส่รหัสผ่านประจำเครื่องคอมตัวเองลงไป แล้วเลือก “ติดตั้งซอฟต์แวร์”
7. จากนั้นรอการติดตั้ง เมื่อติดตั้งสำเร็จแล้วจะแสดงหน้าต่างติดตั้งเสร็จสิ้น ให้เลือก “ปิด”
เมื่อติดตั้ง Node JS เสร็จแล้ว เราจะทำการทดลองว่าติดตั้งสำเร็จจริงไหมโดยทดสอบผ่าน Terminal ของคอมพิวเตอร์ แล้วพิมพ์คำสั่งตามนี้ “node -v” เป็นการตรวจสอบว่า Node JS นั้นติดตั้งสำเร็จและจะแสดงเวอร์ชันที่ติดตั้งดังรูปตัวอย่างข้างล่างนี้
เมื่อทำการติดตั้งเสร็จแล้ว เราจะลองคำสั่งตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การแสดงข้อความ และการกำหนด URL ว่าจะให้แสดงอะไรเป็นต้น (คำสั่งต่าง ๆ นั้นสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ : “https://nodejs.org/dist/latest-v8.x/docs/api/documentation.html” )
วิธีการแสดงข้อความ
EXAMPLE I
const http = require(‘http’);
const hostname = ‘127.0.0.1’;
const port = 3000;
const server = http.createServer((req, res) => {
res.statusCode = 200;
res.setHeader(‘Content-Type’, ‘text/plain’);
res.end(‘Hello World\n’);
});
server.listen(port, hostname, () => {
console.log(`Server running at http://${hostname}:${port}/`);
});
ให้ทุกคนนำโค้ดตัวอย่างนี้ไปใส่ในโปรแกรม Sublime และทำการ save ชื่อด้วยนามสกุล .js จากนั้นเปิด Terminal แล้วพิมพ์ “node ชื่อไฟล์.js” เช่น node hello.js ในกรณีที่หาไฟล์ไม่เจอให้ทำการพิมพ์ “cd สถานที่บันทึกงาน” เช่น บันทึกที่ Desktop ให้พิมพ์ cd desktop แล้วค่อยพิมพ์ node hello.js
แล้วให้เข้าเว็บ : http://127.0.0.1:3000/ จะแสดงข้อความ “Hello World” ตามที่กำหนดไว้ในไฟล์ hello.js
วิธีกำหนดหน้า URL
EXAMPLE II
var app = require(‘express’)();
var port = process.env.PORT || 7777;
app.get(‘/’, function (req, res) {
res.send(‘<h1>Hello Node.js</h1>’);
});
app.get(‘/index’, function (req, res) {
res.send(‘<h1>This is index page</h1>’);
});
app.listen(port, function() {
console.log(‘Starting node.js on port ‘ + port);
});
ให้นำโค้ดตัวอย่างที่สองบึนทึกเป็นนามสกุล .js เหมือนเดิม แล้วทำการเปิด terminal โดยพิมพ์ “node ชื่อไฟล์.js” แล้วเปิดเว็บไซต์เข้า localhost:7777 กับ localhost:7777/index จะพบว่าแสดงข้อความไม่เหมือนกัน โดยจะแสดงข้อความตามที่เรากำหนดว่า URL นี้แสดงอะไรดังตัวอย่าง
ผลแสดงของ localhost:7777
ผลแสดงของ localhost:7777/index
และนี่ก็คือการเรียกใช้ไฟล์ผ่าน Node JS ซึ่ง 2 วิธีดังกล่าวที่ยกตัวอย่างนั้นสามารถทำอะไรได้อีกมากมาย โดยอยู่ที่ผู้ใช้จะเขียนการจัดการต่าง ๆ ทั้งนี้ถ้าใครไม่เข้าใจตัวอย่างก็สามารถดูคลิปอธิบายประกอบได้ที่ด้านล่างนี้
หวังว่าบทความจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่าน ขอบคุณค่ะ 🙂