[สรุปรวม] ความรู้เรื่อง Digital Manufacturing Transformation ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการ Train the Trainer Program: Digital Academy
วิทยากรโดย ดร.มนู อรดีดลเชษฐ์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และคุณสุมาวสี ศาลาสุข
เขียนสรุปโดย อ.ทศพล บ้านคลองสี่ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
[ที่มาของข้อมูลและรูปภาพจากเอกสารการอบรมเรื่อง Digital Manufacturing Transformation ของ ดร.มนู อรดีดลเชษฐ์ และคุณสุมาวสี ศาลาสุข]
เกริ่นนำ
- Thailand 4.0 ต้องการอะไร => ภาคธุรกิจถึงเวลาต้อง Transform เจ้าของธุรกิจรู้เรื่องธุรกิจมากกว่าเรา ในการเปลี่ยนจำเป็นต้องเปลี่ยนที่ตัวผู้บริหารก่อน อบรมผู้บริหารก่อนแบบ Top-Down หัวเปลี่ยนพนักงานถึงจะเปลี่ยนตามนโยบายได้
- สิ่งที่กระทรวงอุตสาหกรรมต้องทำ คือพยายามทำให้ SME ปรับเปลี่ยนแนวคิดใหม่เป็นตัวอย่างผลักดันให้คนอื่นทำตาม จำนวนแสนรายที่อยู่ในระบบภาษี และล้านรายที่อยู่นอกระบบภาษี ต้องพยายามเปลี่ยนให้ได้
- สิ่งที่จะทำให้เปลี่ยนหรือ Transform ได้คือ คุณต้องมีคำว่า Believe คือความเชื่อก่อน คุณต้องเปิดใจกว้างที่จะรับฟัง ต้องมีพันธมิตรภายใน 5 ปี ต้องเอาไปสอนผู้อื่นได้ Workshop ที่ทำแล้ว ใครจะเป็นอาสาสมัครที่จะเอาไปทำจริง
- Transform อะไร ขั้นตอน Framework คืออะไร Thailand 2.5 -> จะไป 4.0 ยังไง จะต้องสร้างบุคลากรที่ Believe ในเรื่องนี้ไปทำเผยแพร่ต่อไป สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัยของรัฐ กำลังจะเกิดขึ้นกับทุกมหาวิทยาลัย หลักสูตร MIS เริ่มหายไป ทำซ้ำกันเยอะไป คนไม่ค่อยเรียน แต่มันสำคัญ
- ต้องเรียนรู้วิธีการใช้ DATA => หลักสูตรต้องออกแบบ PRODUCT ใหม่ คิดวิธีใหม่ในการ Transform ในทุกภาคส่วนของระบบเศรษฐกิจ ให้เข้าใจ Information จะต้อง Re-Brand Re-Package ใหม่ Mass Product ไม่ยั่งยิืน
- ต้อง Transform บนพื้นฐานของ Digital Technology ปรับเปลี่ยน ไม่เท่ากับ ปรับปรุง และปฏิรูป DATA ทีค่าก็ต่อเมื่อเอาไปช่วยแก้ปัญหาให้เกิดประโยนช์ จะต้องสอนให้เขาทุกคนรู้จักใช้ DATA ให้เกิดประโยนช์
- DATA => Create Process => Digital Services เขาจะได้ประโยชน์จากสินค้าและบริการ มีวิธีการ อย่างไรให้ลูกค้าได้ประโยชน์ที่แท้จริง จากสินค้าและบริการ
- Marketplace -> Market Space (กฎหมาย กติกาสังคม ความปลอดภัย) => Ecosystem
- Single Bottom Line เดิมสนใจ กำไรขายทุน —> เปลี่ยนให้มองประโยชน์ของลูกค้าก่อน
Digital Transformation ประกอบด้วย 9 หัวข้อ
1. ผลกระทบจากเทคโนโลยีดิจิทัลต่อธุรกิจ
1.1) Digital Convergence (เกิด Application ที่ไม่รู้จบ)
- Media ทุกชนิดรวมตัวกันอยู่ที่เดียวกัน
- ส่งผ่านช่องทางเดียวกัน (Internet)
- แสดงผลบนอุปกรณ์ตัวเดียวกัน (Mobile Devices)
Convergence 3 เรื่อง (Converge มาอยู่ที่เดียวกัน)
- Content (DATA) => VDO, Animation, เรื่อง, ข้อความ
- Channel of Communication (Internet)
- Device Conversion (Mobile Devices, Devices)
Example
โรงงานทำขนม ต้องการ Transform
- 70% ขายเป็น Superstore เน้นเรื่อง Margin เป็นแหล่งระบายสินค้าเท่านั้นเอง ไปหารายได้จากที่อื่นแทน สินค้าคิดตลาดเขาจะทำสินค้า OEM ของเขาเอง ไม่ให้แข่ง แบบเช่น 7-11 ทำมาขายเอง
- 30% ขายผ่่านตัวแทนทั่วประเทศ
- ทำการ Transform ส่งไปตามร้านค้ายอย 400,000 กว่าร้านค้า รายได้ของร้านค้า average 3,000 – 4,000 บาท/วัน START ถ้าทำได้ก็ไม่ต้องสนใจ Superstore
- ขายเงินเชื่อ -> เพิ่ม Power ของการซื้อ -> แต่เงินหมุนเวียนไม่มี
- มีระบบขนส่งของตัวเอง ใช้ Google Map -> GPS ทำให้ไม่หลงทาง (Google Map -> Data Conversion) ส่งผ่าน Internet แผนที่ ระยะเวลา เส้นทาง Traffic ปริมาณรถ คุณจะต้องใช้ DATA เหล่านี้มาแก้ปัญหา
- ต่างกันที่ Range และ Density ซื้อสิ่งที่คุณมี ใช้ Line สั่งของ
1.2) Everything is Connected (Everything is Resource)
- The Internet
- The Social Network
- The Internet of Things
- ลูกค้าคือผู้กำหนดราคา -> ไปเดินห้างหาซื้อตู้เย็น search ข้อมูล Internet ไปหาร้านที่ขายถูกสุดไปซื้อ (ไม่ได้ซื้อที่ห้าง) หาผลิตภัณฑ์ดี คุณภาพดี ราคาถูก
- Mass Production (ราคาถูกคนซื้อเยอะ) ไม่เป็นปัญหา ทุกคนทำได้หมด
- QC คือ เรื่องของการเรียนและลอกเลียนแบบกันได้
- ลูกค้าคือคนกำหนด เพราะเขาหาข้อมูลเลือกซื้อ Brand เองได้
- Mass Production ทำให้ลูกค้าบริโภคเกินความจำเป็น (Overcontrol)
- สร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพดี ราคาถูก
USA ปัจจุบััน Overcontrol อ้วนมาก เพราะเกิดจาก Vice President Marketing ของ McDonalds Fast Food -> Life Factor นักธุรกิจถามนักเศรษฐศาสตร์
- ขยายกล่อง คนซื้อ ๆ ครั้งเดียวกินอิ่ม
- ถูกกว่าซื้อ 2 ครั้ง
Technology -> เปลี่ยนแนวคิดของคน จากสื่อทางเดียว ไปสู่ Social Media สื่อ 2 ทาง (Feedback) คุณไม่มีทางโกหกผู้บริโภคได้อีกต่อไป
IOT ความสามารถในการเชื่อมโยงได้ทุกอย่าง Communicate บอกได้ทุกอย่าง เช่น ร้านค้า, Package, Personal Life, จัด Package ให้เสนอ Promotion ให้สนใจ Innovation และมีทักษะให้เกิด Innovation (Process and Data)
1.3) The 4th Wave of Internet: BLOCKCHAIN
ยุดที่ 4 ของ Internet => Security (Ex. WannaCry)
Blockchain and Data Mining => สร้างเครื่อข่ายเพื่อเคลื่อนย้าย Value ระหว่างคนสองคน โดยไม่อาศัยคนกลาง (Peer-to0Peer: P2P)
- คนใช้ Dynamic (User) เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คนทำ Static รับงานมา 4-5 เดือนเสร็จ
- Middleware – Infrastructure (Websphere/ .NET)
- สร้าง Software Platform → Micro Services (API, Mini Database ของเขา), Google Map, Google Application
1.4) Gartner’s The NEXUS of Force
การประสานพลังที่เกิดจากเทคโนโลยีดิจิทัล 4 กลุ่ม => SMAC
- Social สร้างชุมชม
- Mobile ทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา
- Analytics (Information) ทำให้รู้ World Insights เรื่องที่เกี่ยวกับตัวคุณเอง ที่มาของ BIG DATA ซื้อ ขาย รับ จ่าย Predict the Future ด้วย Preditive Analysis
- Cloud ทำให้เกิด Business Platform/Ecosystems ทำให้ธุรกิจรายเล็กไม่เสียเปรียบรายใหญ่
- รู้จัก Transform ปลาเล็กกินปลาใหญ่ —> Cloud Computing (IT <–> Network) มีสมอง และเข้าใจว่าคุณใช้ประโยชน์อะไรจากมัน ถ้าหาเงินซื้ออุปกรณ์ไม่มีทางสู้กับรายใหญ่ได้
- Tech StartUP เปลี่ยนโครงสร้าง รู้จักใช้ Technology and Network -> Share Resource และ Access Value ทำให้ปลาเล็กกินปลาใหญ่ได้ สนับสนุนระบบใหม่ สร้างความร่วมมือกัน Create Innovation
ให้เด็ก Create Product ให้เรา สิ่งที่เขาต้องการ Value เปลี่ยนตลอดเวลา อาจารย์จะต้อง Coach ให้เด็กแทน
1.5) ธุรกิจที่มีลักษณะเป็นชุมชน
- เปลี่ยนจาก Optimize Internal Processes and Resources มาเป็น
→ 1) Interaction จัดการปฏิสัมพันธ์ Service Exchange ให้บริการซึ่งกันและกัน
→ 2) Value Creation สร้างคุณค่าร่วมกัน ต่างธุรกิจกันสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า
- เปลี่ยนจาก Value Chain มาเป็น → Value Network
- เปลี่ยนจาก Controlling Resources มาเป็น → Orchestrating Resources
Ex. Tera (IoT องค์ประกาบในรถ) คนยังไม่กล้าใช้ เพราะยังไม่มีที่เติมพลังงานไฟฟ้า และโรงซ่อม
Ecosystem → Programmer ที่เขียน Application ใน Appstore ของ Apple ต่างจาก Nokia ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
สร้าง Story ให้ความรู้ => Product = YouTube/Facebook => กระตุ้นให้คนมาซื้อ (Viral, CSR), QR Code ถ่ายทอดวิธีการขั้นตอนการทำ ทำการตลาดโดยอาศัย Techonology สร้าง Network เพื่อขยายฐานทุกอย่าง
Ex. Pain ของร้านค้า คือ มีเงินหมุนเวียนไม่พอในการซื้อของ สร้าง Mobile POS → Transaction เก็บข้อมูลจาก Design Process สร้าง Network ส่งข้อมูลเชื่อมโยงกับ กรมสรรพากร ธนาคาร โรงงาน ร้านค้ารายย่อยอื่น ๆ เก็บข้อมูลร้าน DATA ขึ้นไปอยู่ใน Cloud มี Software เอา DATA มาวิเคราะห์ เอาข้อมูลให้ ธนาคาร จะปล่อยเงินกู้ให้ เพราะเรามีข้อมูลเงินหมุนเวียน กำลัง Create Value ให้ลูกค้ารายย่อยของเรา และช่วยคุณส่งของ สินค้าต่าง ๆ ไปให้ด้วย
2. ลักษณะของการปรับเปลี่ยนธุรกิจ (Business Transformation)
2.1) 3 Aspects of Digital Transformation
- ใช้สร้างชุมชนทำให้เกิดความร่วมมืออย่างใกล้ชิด ข้อมูลช่วยให้เกิด Insight และการปรับเปลี่ยน
- ต้องการสหว่านไฟฟ้า (ความเป็นเจ้าของ ซื้อมาก็เก็บไว้ไม่ได้ใช้อีก) หรือ ต้องการรู => คุณค่าของเขาคือต้องการรู เกิดบริการเจาะรู 300 บาท คุ้มกว่าการซื้อสหว่านมาและใช้แปปเดียว นี้คือจุดเริ่มต้นของธุรกิจที่จะ Transform อะไร ลักษณะไหน รูปแบบใด
(1) Digitize and integrate core processes of value chain -> Deal (Internal Process and External Process) กับองกรค์ภายนอก
- ใช้ดิจิทัลบูรณาการระบบห่วงโซ่คุณค่าทั้งแนวตั้งและแนวราบ เชื่อมโยงงานเล็ก ๆ ภายในห่วงโซ่คุณค่า เช่น กระบวนการรับซื้อ การสั่งซื้อ การวางแผนการผลิต งานสั่งซื้อวัสดุ งานผลิตสินค้า งานกระจายสินค้ารวมทั้งบริการหลังการขาย เน้นให้หน่วยงานใช้ Technology ในการ Integrate ดิจิทัลช่วยเชื่อมโยงกับผู้ผลิต ลูกค้า และพันธมิตรอื่น ๆ
(2) Servitize Product and Service (ท้าทายมาก)
- ใช้ดิจิทัลเพื่อปรับปรุงแบบสินค้าและบริการ ปรับปรุงตัวสินค้าให้รองรับกับความต้องการของลูกค้าต่อยอดสินค้าและบริการให้มีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าเดิมด้วยดิจิทัล
- ปรับรูปแบบการจำหน่ายสินค้า → นำสินค้าไปให้บริการแทน
- สร้าง Digital Service เสริมให้การใช้สินค้าและบริการเดิมให้มีคุณค่ามากขึ้น
- ใช้ดิจิทัลอำนวยความสะดวกในเชิงบริการ ทำให้ลูกค้าทำธุรกรรมกับเราได้สะดวกมากขึ้น Customer Experiences ที่ดี
Customer Value → มัน Dynamic ตามตัวบุคคล ทำให้ลูกค้า Beyond Value Chain
Ex. ขายรถ ใช้ Mobile App จองไว้ เช่ารถขับเอง Smart Card -> RFID -> ลิ้นชักเปิดกุญแจ (Key) -> เอาออกมา -> เซ็นต์สัญญา รถคันนี้สภาพทุกอย่าง OK? ถ้ามีบุบสลาย คุณจะต้องรับผิดชอบ -> เอารถไปใช้ Service ทำให้สินค้าที่คุณขายอยู่มี Value มากขึ้น แก้ปัญหาของลูกค้าได้
- ทำให้คนได้สะดวกในการใช้ คนหนึ่งคิดเป็น คนหนึ่งคิดไม่เป็น ก็แข่งกันไม่ได้ ขายสินค้าผ่าน Internet
Ex. ขายทัวร์ เสนอให้เที่ยวกรุงเทพ 3 วัน ราคา 3,000 บาท ทำอย่างไรให้ลูกทัวร์รู้ว่าเขาจะเจออะไรในทัวร์นี้บ้าง เพื่อให้ข้อมูลบริการหลังการขายในแง่ดี ตามที่ลูกค้าคาดหวัง จะได้ไม่มีการเขียนโจมตี
วิธีการ อัด VDO บรรยายประวัติศาสตร์ที่ทัวร์จะให้ มีไกด์ พูดภาษาดฉพาะ แต่คุณต้องมีค่าใช้จ่าย คุณจะใช้ Technology อะไรให้ลูกค้ามี Value
- มีจุดไหนที่เป็นจุดอ่อน → คุณจะแก้ปัญหานี้ได้ไหม
- ทำอย่างไรที่จะแก้ปัญหาลูกค้าแต่ละคน อย่างมีระบบ
- จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่ออยู่ที่ Mindset ของผู้บริหาร (มองลูกค้า Section ใหม่ หรือ มองลูกค้า Section เดิมเพิ่มได้ไหม)
- ทำอย่างไรให้ลูกค้ามี Participate กับบริการ
(3) Innovating Digital Business Models (สร้างรูปแบบธุรกิจเชิงนวัตกรรม) จะปรับอย่างไร จะใช้ Digital อะไรสร้างระบบใหม่ วิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) -> Enterprise Data, Internal Data และ External Data
- Business Model ใช้ทรัพยากรของคนอื่นมาทำให้คุณรวย มี Network -> Create Value ให้ลูกค้า
Ex. IKIA สร้างสินค้ามาในรูปแบบ WIN-WIN Source คุณภาพดีที่สุด อุปกรณ์วัสดุที่สร้างดีที่สุด ราคายุติธรรม เปลี่ยน Market Place → Market Space
- Business Model ต้องเปลี่ยน => เปลี่ยน MINDSET ของผู้บริหาร แนวคิดของการปฎิรูป ตัวชี้วัด ว่าสำเร็จไหม (ยังไม่มี KPI เฉพาะ)
- มีแนวที่ให้คุณไปกำหนด KPI ตัวอย่าง
→ 1) Innovation ที่เกี่ยวกับการหารายได้ (วัดที่จำนวนคน search รายได้โฆษณา)
→ 2) การสร้าง Channel – E-Commerce -> Multi-Channel แต่ละ Channel ได้รายได้กี่ %
- จากที่เคยเน้นการผลิตสินค้าเพื่อจำหน่าย → จัดการ Interaction ระหว่างธุรกิจ/ พันธมิตร/ ลูกค้า
Ex. เว็บ Threadless.com สร้าง Website ชวนชาวบ้านมา Design (คนรัก T-Shirt) คนสร้างจะแบ่งรายได้ให้คนออกแบบ
- ให้ชาวบ้านทั่วไปมาเลือกว่าชอบตัวไหน โดยอาศัยชาวบ้านที่ชอบออกแบบมาช่วยเขาทำงาน => สร้าง Value คนที่เกี่ยวข้อง ชาวบ้านที่ Design ให้ส่วนแบ่งรายได้ เขาจะภูมิใจที่ผลงานของตัวเองที่ขายได้ รายได้จากการขายตรง และส่วนแบ่งจากการขายคือค่าฝีมือการออกแบบ
- ลักษณะเป็นธุรกิจชุมชน (Community-based Business) => Airbnb, Uber, Threadless.com
3. แนวทางการปรับเปลี่ยนธุรกิจ
- Digital Transformation => Customer Experiences -> Royal Customer
- เอาทรัพยากรคนอื่นมาหารายได้ เช่น สร้างเว็บให้คนมาออกแบบ เพื่อ Share Cost กัน
3.1 Transform Toward Value Creation (From Product-centric to Customer-centric)
- Value Creation
Open System | Closed System |
1. หาทรัพยากรจากภายนอกมาช่วย จ้างคนเก่งมาทำ | 1. Manage Resource ด้วยตัวเอง สร้างคนส่งคนไปเรียนกลับมาทำงาน |
2. รู้ Insight เฉพาะชองตัวคุณเอง และคนอื่น | 2. จำกัดอยู่ในกรอบ |
3. สร้างวิธีการ Interact เช่น Uber ใช้ข้อมูล รูป Rating คนขับ จากข้อมูลจริง (Network Structure) | 3. ทำด้วยตัวเอง (Silo Structure) |
4. สร้างข้อเสนอตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า อิสระในการคิด ทำงานร่วมกับลูกค้า | 4. ทำตามหน้าที่บริการ |
- Create Value จากสิ่งที่คุณผลิต
- Product Centric Company สร้าง Product ดีแค่ไหนก็เลียนแบบได้ Mass Production ไม่ยั่งยืน
- Customer Centric Company เลียนแบบยาก
Mass Production
- One Way โรงงาน → ลูกค้า
Mass Customization
- ลูกค้ามี Participation โรงงาน <–> ลูกค้า
- พยายามทำสิ่งที่ลูกค้าต้องการแต่ไม่เพิ่มทุน
Product-centric
- ฟังก์ชัน Feature ที่ถูกออกแบบมาสำหรับคันนั้น
- สนใจแต่ขายตัว Product
- โดยสารได้/ ขับเคลื่อนได้/ วิ่งเร็ว 200kg/hrs
Customer-centric
- คุณค่านอกตัวสินค้า นอกตัว Product
- Co-Creation เครื่องปรุง ปรุงตามใจชอบ
- สะดวก/ ประหยัด/ ปลอดภัย/ ทำให้รู้สึกดี, เดินทางได้สบายใจ Personal Value สำคัญกว่า ราคา
Customer Experience (Success, Effort ต้องใช้ง่ายที่สุด ไม่ต้องมีคู่มือ, and Emotion ความนิ่มนวล)
- สินค้าต้องตอบโจทย์
- ไม่ต้องเรียนรู้
- คุณต้องรู้จักผู้ใหญ่
- คุณต้องรู้จักคนที่รู้จักผู้ใหญ่
- คุณต้องมีเงิน
4. วิธีการปรับเปลี่ยนธุรกิจ
Horizontal ทำงานร่วมกับคนอื่นได้
Vertical พัฒนางานของตัวเอง
(1) Digitally Vertical integration
- ธุรกิจยังคงเน้นการผลิตสินค้าเป็นธุรกิจหลัก (Product centric) ปรับปรุงด้วยการบูรณาการการทำงานในกลุ่ม Core processes กับพันธมิตรและลูกค้า
- ธุรกิจแบบ Self-contained ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ใช้เทคโนโลยี (IT) ให้เกิดประโยชน์
(2) Digitally horizontal integration
- ธุรกิจยังคงเน้นการผลิตสินค้าเป็นธุรกิจหลัก (Product centric) ปรับปรุงด้วยการบูรณาการการทำงานในกลุ่ม Core processes กับพันธมิตรและลูกค้า
- ธุรกิจเป็นแบบเครือข่ายมากขึ้น ใช้เทคโนโลยีเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ (Improve Efficiency)
(3) Servitization
- ธุรกิจให้ความสำคัญกับการ Bundle บริการเข้ากับสินค้า เพื่อให้ลูกค้าได้คุณค่ามากที่สุด ให้ความสำคัญกับ Value-creation ให้ได้ Economies of scope จากบริการ
- ธุรกิจเป็นแบบ Self-contained ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ใช้เทคโนโลยีเพื่อให้เกิดนวัตกรรมด้านบริการที่เป็น Digital Services
Digital Services
- บริการประทับใจ
- Co-Creation
- แบบ Network ใช้เครือข่าย รับ order ผ่านทาง LINE (Network)
- สินค้าหรืออาหารจะต้องสดใหม่และอร่อยเหมือนไปนั่งกินที่ร้าน
- เริ่มต้นออกแบบ Process => Design ตัว Packaging ให้อร่อย เหมือนนั่งร้าน เวลาในการส่งที่ Control ได้ มีเครื่องปรุงให้ลูกค้าปรุงเอง → Create Value
- นำข้อมูลมาปรับปรุง และสร้างโอกาสทางธุรกิจ
- สร้าง Fan Club สร้าง Rating ร่วมมือกันออกแบบ
(4) New business model: Value Creation
- ธุรกิจปฏิรูปถึงขั้นที่สามารถส่งมอบ Customer Experience อย่างน่าประทับใจ ให้ความสำคัญกับ Value-creation ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้จริง
- ธุรกิจให้ความสนใจร่วมมือกับพันธมิตรและลูกค้าในการทำ Co-production และ Co-creation ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อทำงานแบบเครือข่ายในรูปแบบของ Value Creation System
5. ความสำคัญของรูปแบบธุรกิจ The 2-Worlds Model
ต้นน้ำ → ปลายน้ำ
The Value Loop คือเส้นทางที่ลูกค้าจะเอาสินค้าของคุณไปสร้าง Value → Innovation
Digitization กับธุรกิจในโลก 2
แก้ Pain ของลูกค้าก่อนตั้งแต่ Process แรก
- โลกที่อยู่โลก Cyber ที่ Physical World
- สร้างสิ่งที่เป็นตัวทดแทน
การปรับเปลี่ยนธุรกิจ (Business Transformation)
ลูกค้ามีส่วนกำหนดความต้องการ
- Mass Customization ผลิตสินค้าตามสั่ง ด้วยต้นทุนที่ใกล้เคียงกับ Mass Production => Customer-centric strategy (New Logic)
Design -> Sale -> Production -> Distribution
บทบาทหน้าที่ของ Trainer
- โน้มน้าวคนจำนวนมากให้ไปทางเดียวกัน สร้างคนที่ให้ไปถ่ายทอดให้คนจำนวนมาก
- ปรับ Mindset => Product → Services
- นำ Technology ที่มีอยู่แล้ว → สร้าง Customize Service (นำ Software มาใช้หรือสร้างเอง)
6. แนวคิดการสร้างบริการดิจิทัล (Digital Services)
หาวิธีเปลี่ยน Product → Services
=> 1) Systematic Thinking 2) Analytic Thinking และ 3) Logic Thinking (สอน Programming ตั้งแต่เด็ก)
- Business Digitization ทำให้เกิดข้อมูลใน Digital World ที่เป็น Marketspace ของธรุกิจ
- Digital Services เป็นสิ่งสำคัญเพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจในลักษณะ Value Creation บน Marketspcae 1) สร้างทักษะเปลี่ยน Mindset 2) นำ Technology ที่มีอยู่แล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์
Digital Service Innovation
Service Innovation → ใช้ความคิดใหม่ ๆ นำไปสู่การสร้างบริการรูปแบบใหม่และความสัมพันธ์แบบใหม่ เพื่อร่วมกันทำให้เกิดประโยชน์และคุณค่า (Customer Experience)
Digital Service ทำให้บริการบน Digital Layer เชื่อมโยงธุรกิจแบบเดิม Physical Layer (World)
Service ในบริบทของ Value Creation
- บริการ (Service) คือการใช้ทรัพยากรเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วยการกระทำกระบวนการหรือวิธีอื่น
→ ทรัพยากร => ความรู้ / ทักษะ / ข้อมูล / อื่น ๆ
→ ทรัพยากรแบบสินค้าที่เป็นกายภาพ => ทำหน้าที่เพียงแค่กลไกสนับสนุนการบริการ
Ex. การลงเรียนที่ลงเรียนทั้งหลักสูตรจะต้องเรียนวิชาที่อยู่หลักสูตรที่เรียนเท่านั้น แหล่งที่มาของรายได้ใหม่ ไม่จำเป็นต้องเรียนวิชาในหลักสูตรทุกวิชา ให้สามารถเรียนข้ามหลักสูตรได้ ให้นักศึกษาเลือกสามารถเข้าเฉพาะหัวข้อวิชาที่สนใจ เข้ามาเรียนเฉพาะคนที่อยากเรียนจริง
- การมีปฎิสัมพันธ์ (Interaction)
→ Recombine Resources ส่วนสำคัญของกระบวนการบริการ
- Value Co-Creation คือกลยุทธ์ของธุรกิจดิจิทัล เกิดจากการแลกเปลี่ยนบริการ (Service Exchange)
- Digital Service Innovation เป็นสิ่งสำคัญรองรับธุรกิจที่ใช้กยุทธ์ของ Value Creation
มอง Value ลูกค้า
เปลี่ยน Product → Services
- นำ Technology ที่มีอยู่แล้วมาใช้ หรือสร้างขี้นใหม่ Customize Software
- สร้างเด็กที่มี => 1) Systematic Thinking 2) Logic Thinking 3) Analytic Thinking และ Creative Thinking
- ทำธุรกิจอย่ามุ่งหาแต่ความร่ำรวย ให้วัดหาคุณค่าด้วย
Digital Service: Relieve VS Enable
- Relieve → ทำหน้าที่แทนคน (Software ล้วน ๆ) เช่น Software ทำ AUTO ไม่ต้องมีคนมาช่วย เช่น โปรแกรมวิเคราะห์การขายของร้านค้ารายวันเพื่อพิจารณา
- Enable → คนไปทำให้ Software ทำงาน เช่น Google Map / Uber / Airbnb
Three Models of Digital Service (Digital Services มี 3 รูปแบบ)
- รูปแบบธุรกิจออนไลน์ล้วน เช่น Google
- Cyber-Physical System (CPS) เช่น รูปแบบธุรกิจโลกสองใบ Uber
- รูปแบบธุรกิจในโลก Cyber พร้อมเปลี่ยนตัวสินค้า เช่น Apple iTune, NetFlix (เปลี่ยนจากแผ่น CD → ไฟล์) ทาง Streaming ในการให้บริการ
หลักการสร้าง Digital Services
Digital Service
- อาศัย Digital Assets ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ลูกค้าได้คุณค่า
- อาศีย Recombine Digital Resource และ E-bundle Digital Processes
- Reconfiguration Digital Resources and Processes ตอบโจทย์บริบทลูกค้า (Value in Context)
กระตุ้นให้คนสร้าง Value Creation
=> Unbundle / Re-bundle (Mix and Match) / Re-config (ให้ปรับปรุงให้มีอะไรใหม่ เพิ่ม Services) / Recombine
ข้อจำกัดในโลกกายภาพ
- ต้องพึงพาคน (Actor) 2) พึ่งพาสถานที่ (Space) 3) ผูกมัดเรื่องเวลา (Time)
Technology ขจัดข้อจำกัด (Win – Win)
สร้าง Value Creation ให้ตัวเอง และ Partner → ลูกศิษย์
เหมือนของเหลว พยายามทำ Physical ในโลกนี้ ให้มันลื่นไหลเหมือนของเหลว
7. แนวคิดการสร้างคุณค่า (Value Creation Principle)
8. The Service Ecosystem
9. The Digital Transformation Roadmap